โปรแกรมให้วิตามินทางหลอดเลือด IV Drip - บางกอก เวลเนส เมดิคัล คลินิก

โปรแกรมให้วิตามินทางหลอดเลือด IV Drip - บางกอก เวลเนส เมดิคัล คลินิก

รายละเอียดแพ็กเกจ

โปรแกรมวิตามินทางหลอดเลือด สูตร Health Booster

• IV Drip Vitamin สูตร Health Booster 1 ครั้ง
• ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
• ช่วยต่อสู้การติดเชื้อไวรัส และแบคทีเรียหลายชนิด
• เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้รู้สึกสดชื่น
• มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน และบำรุงผิวให้กระจ่างใส

โปรแกรมสกินผิวออร่าด้วย วิตามินดริป Aura Booster 1 ครั้ง

ให้วิตามินทางหลอดเลือด แบบ Drip สูตร Aura Booster เพื่อบำรุงผิวพรรณให้ดูกระจ่างใส เปล่งปลั่ง 1 ครั้ง ที่ ให้วิตามินทางหลอดเลือด แบบ Drip สูตร Aura Booster เพื่อบำรุงผิวพรรณให้ดูกระจ่างใส เปล่งปลั่ง 1 ครั้ง

• การเติมวิตามิน  Aura booster คือ การให้วิตามินทางหลอดเลือด (Intravenous Vitamin Therapy) เป็นการให้วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายทางสายน้ำเกลือ ให้เข้าสู่ร่างกายโดยตรง 

ประโยชน์ของ Aura Booster มีอะไรบ้าง?

• ลดความหมองคล้ำของผิว 
• ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น สดใส
• ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
• ลดความอ่อนเพลีย อ่อนล้าของร่างกาย
• ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

โปรแกรม วิตามินดริป Booster 

สูตรวิตามินและแร่ธาตุเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย ฟื้นฟูเซลล์ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะภูมิแพ้ ผู้ป่วยเรื้อรัง หรืออยู่ในระยะพักฟื้น Vitamin Immune Booster เป็นการให้วิตามินที่มีความเข้มข้นทางเส้นเลือด หรือหลอดเลือด (IV Drip) เพื่อให้ร่างกายดูดซึมวิตามินไปใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยสลายเหมือนการรับประทาน

• IV Drip - Immune Booster 1 ครั้ง
• IV Drip - Myers cocktail 1 ครั้ง

ใครบ้าง ที่เหมาะกับ Immune Booster

• ผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้เรื้อรัง เช่น คัดจมูกง่าย ไอ จาม ติดเชื้อหวัดบ่อย ไมเกรน และไซนัสเรื้อรัง
• มีผื่นคันที่ผิวหนังเรื้อรัง ลมพิษเรื้อรัง
• เป็นโรคเรื้อรัง ที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน เช่น HIV, ตับอักเสบบี, เบาหวาน, มะเร็ง
• ผู้ที่ต้องเดินทางบ่อยๆ เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย

ผลลัพธ์ของ Immune Booster

• ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ลดอาการภูมิแพ้ และยังช่วยป้องกันการติดเชื้อต่างๆ ให้น้อยลง
• ทำให้ร่างกายสดชื่น ไม่อ่อนเพลียง่าย
• ช่วยลดความตึงเครียด
• ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ
• ช่วยชะลอวัย ผิวพรรณสดใส แลดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น

โปรแกรมให้วิตามินทางหลอดเลือด สูตร Chelation Therapy

• IV Drip Vitamin สูตร Chelation Therapy 1 ครั้ง
• ช่วยขจัดสารโลหะหนักออกจากร่างกาย
• เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของหลอดเลือด
• ลดการสะสมของสารพิษที่เกาะตามผนังเส้นเลือด
• เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของตับและไต
• เสริมสร้างภูมิต้านทานให้ดียิ่งขึ้น ป้องกันโรคความเสื่อมต่างๆ เช่น เส้นเลือดตีบแคบ ภาวะโรคแพ้ภูมิคุ้มกันตนเอง เป็นต้น

โปรแกรมวิตามินทางหลอดเลือด สูตร Liver Detox

• IV Drip Vitamin สูตร Liver Detox 1 ครั้ง
• ฟื้นฟูประสิทธิภาพการทำงานของตับ
• เพิ่มประสิทธิภาพขับสารพิษตกค้างในตับ
• เหมาะสำหรับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นประจำ
• เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคตับ เช่น ไขมันพอกตับ ตับแข็ง เป็นต้น

โปรแกรมวิตามินทางหลอดเลือด สูตร Kidmin

• IV Drip Vitamin สูตร Kidmin 1 ครั้ง
• ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของไต
• ลดความเครียดและฟื้นฟูสุขภาพ
• ฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สำหรับบำรุงไต
• ช่วยดูดซึมสารอาหารวิตามินและเพิ่มกรดอะมิโน ซึ่งเป็นโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย

โปรแกรมวิตามินทางหลอดเลือด สูตร Megadose Vit C

• IV Drip Vitamin สูตร Megadose Vit C 1 ครั้ง
• ช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเซลล์เนื้อเยื่อในร่างกาย
• ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
• ช่วยลดอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลียง่าย
• เสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง
• เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องเซลล์จากความเสียหาย รักษาระดับวิตามิน C และวิตามิน E

โปรแกรมวิตามินทางหลอดเลือด สูตร Brain Booster

• IV Drip Vitamin สูตร Brain Booster 1 ครั้ง
• ช่วยทำให้ระบบความจำและการเรียนรู้ดียิ่งขึ้น
• เพิ่มประสิทธิภาพระบบประสาทและสมอง
• ฟื้นฟูภาวะความจำเสื่อม สมองเสื่อม
• ช่วยลดความเครียดสะสม ความเหนื่อยล้า สมองปลอดโปร่ง

ระยะเวลาในการให้บริการ

• ระยะเวลาในการให้บริการ 1 - 1.30 ชั่วโมง โดยคำแนะนำของแพทย์ตามความเหมาะสม

ข้อควรรู้ก่อนเข้ารับวิตามินทางหลอดเลือด

• ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
• วิตามินแต่ละสูตร สามารถทำได้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์หรือขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้ชำนาญการแนะนำ
• ดูแลและควบคุมโดยแพทย์และพยาบาลผู้ชำนาญการในทุกขั้นตอน
• การดริปวิตามินอาจจำเป็นในกรณีที่ขาดวิตามินหรือแร่ธาตุบางชนิดเท่านั้น ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัย

ข้อจำกัด

• ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี
• สตรีมีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
• ผู้ป่วยไตวาย หรือภาวะไตบกพร่อง
• ผู้ป่วยโรคพร่องเอนไซม์
• ควรหลีกเลี่ยงในผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ไต และความดันโลหิต

การเตรียมตัวก่อนรับบริการให้วิตามินทางหลอดเลือดแบบ IV Drip

• ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมง เพื่อปรับสมดุลร่างกายก่อนรับวิตามิน
• ไม่ต้องงดอาหารและน้ำ (ยกเว้นหากเข้ารับบริการครั้งแรกควรตรวจสุขภาพหรือพบแพทย์เพื่อปรึกษาก่อนทำการดริปวิตามิน ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนตรวจ
• หากมีโรคประจำตัวหรือประวัติสุขภาพอื่นๆ กรุณานำผลการตรวจหรือรายงานจากแพทย์มาด้วยเพื่อประกอบการวินิจฉัย
• ดื่มน้ำมากๆ ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ช่วยให้วิตามินไหลเวียนไปได้อย่างรวดเร็ว
• ควรสวมเสื้อผ้าที่สะดวกต่อการเจาะเลือดที่ข้อพับแขน

การดริปวิตามิน หรือ IV Drip?

• เป็นการให้วิตามินที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ โดยผ่านทางสายน้ำเกลือเข้าสู่ทางหลอดเลือดดำ ซึ่งจะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ต้านความเสื่อมของผิวที่เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์มีความเปล่งปลั่ง อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยลดอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ลดความเครียด เพิ่มการไหลเวียนของหลอดเลือด ช่วยรักษาระดับวิตามินในร่างกายให้สมดุลพร้อมกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ควรดริป Vitamin บ่อยแค่ไหน? ถึงจะเห็นผล?

• การ Drip Vitamin ควรทำทุกๆ 1-2 สัปดาห์ ซึ่งจะเห็นผลในเรื่องของผิวที่กระจ่างใส หากสำหรับอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย จะเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรก โดยหลังจากการเข้ารับบริการ Drip วิตามินควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่านและอยู่ในความดูแล พร้อมปรึกษาโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ประจำ BWM Saha Clinic

การดริปวิตามิน VS การได้รับวิตามินจากอาหาร?

• โดยทั่วไปร่างกายสามารถได้รับวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณที่เพียงพอจากอาหารที่รับประทาน แต่ในผู้ที่มีนิสัยเลือกกินเฉพาะอาหารบางชนิด รับประทานอาหารไม่หลากหลาย ก็อาจทำให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุไม่ครบถ้วน
• การฉีดวิตามินหรือรับวิตามินทางหลอดเลือดเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ โดยช่วยให้เลือกวิตามินและแร่ธาตุที่ต้องการได้อย่างเฉพาะเจาะจง

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

• บางกรณีอาจเกิดการระคายเคือง การอักเสบ เลือดอุดตันบริเวณที่ฉีด เนื่องจากสารละลายที่ใช้
• หากทำโดยบุคลากรที่ไม่เชี่ยวชาญ อาจเกิดอันตรายจากการฉีดวิตามินที่ไม่เหมาะสม เช่น ให้วิตามินเร็วเกินไป ไม่ระวังเรื่องความสะอาด