

Administrator
เขียนเมื่อวันที่ : 30 Jul 2025
5 โรคยอดฮิตของเด็กวัยเรียน
จากข้อมูลที่มีอยู่ในช่วงกลางปี 2025 (กรกฎาคม 2568) แนวโน้มโรคยอดฮิตในเด็กวัยเรียนยังคงเป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจและทางเดินอาหารเป็นหลัก รวมถึงโรคเรื้อรังบางชนิดที่พบมากขึ้น นี่คือ 5 โรคยอดฮิตของเด็กวัยเรียนในปี 2025 ที่ผู้ปกครองและโรงเรียนควรให้ความสำคัญ:
1. ไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
ไข้หวัดใหญ่ยังคงเป็นโรคที่พบบ่อยและแพร่กระจายง่ายในกลุ่มเด็กวัยเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว มีรายงานว่าในปี 2568 มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่จำนวนมาก การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำปีและการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลยังคงเป็นสิ่งสำคัญ
2. โรคมือ เท้า ปาก (Hand, Foot, and Mouth Disease - HFMD)
เป็นอีกหนึ่งโรคที่ยังคงมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเด็กเล็กและช่วงเปิดเทอม หรือฤดูฝน มีรายงานว่าช่วง ม.ค.-มิ.ย. 2568 มีผู้ป่วย HFMD ในประเทศไทยแล้วกว่า 21,000 ราย โดยพบมากในกลุ่มเด็กอายุ 0-9 ปี การล้างมือบ่อยๆ และการทำความสะอาดสิ่งของที่สัมผัสบ่อยๆ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
3. โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus)
RSV เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ แต่อาจรุนแรงในเด็กเล็ก โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้เกิดหลอดลมฝอยอักเสบ ปอดอักเสบ อาการที่พบได้แก่ ไอ มีเสมหะ หายใจเหนื่อยหอบ มีเสียงวี๊ดในปอด โรคนี้มักจะระบาดในช่วงฤดูฝน การป้องกันเน้นที่การรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล
4. โรคไข้เลือดออก (Dengue Fever)
ไข้เลือดออกยังคงเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่สำคัญในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นฤดูที่ยุงลายพาหะนำโรคชุกชุม อาการสำคัญคือ ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้ อาเจียน อาจมีจุดเลือดออกตามผิวหนัง การป้องกันเน้นที่การกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย (3 เก็บ: เก็บบ้าน เก็บขยะ เก็บน้ำ) และป้องกันยุงกัด
5. โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน (Acute Diarrhea)
โรคอุจจาระร่วงเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือปรสิตที่ปนเปื้อนในอาหารหรือน้ำดื่มที่สกปรก อาการที่สำคัญคือ ถ่ายเหลวเป็นน้ำหลายครั้ง ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีไข้ร่วมด้วย การป้องกันที่ดีที่สุดคือการรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ดื่มน้ำสะอาด ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้ง
คำแนะนำทั่วไปสำหรับการป้องกันโรคในเด็กวัยเรียนในปี 2025
เน้นย้ำสุขอนามัยส่วนบุคคล : การล้างมือด้วยสบู่และน้ำบ่อยๆ การสวมหน้ากากอนามัยเมื่อป่วย การไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
ฉีดวัคซีนป้องกันโรค : การฉีดวัคซีนพื้นฐานครบถ้วน และวัคซีนเสริมที่จำเป็น เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันโรคมือ เท้า ปากบางสายพันธุ์ (EV71) (หากมี)
การดูแลสภาพแวดล้อมในโรงเรียนและที่บ้าน : ทำความสะอาดห้องเรียน ห้องน้ำ ของเล่น และอุปกรณ์ต่างๆ เป็นประจำ กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
ส่งเสริมสุขภาพกายและใจ : การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และใส่ใจปัญหาสุขภาพจิตของเด็ก
การเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือกับโรคต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้เด็กวัยเรียนมีสุขภาพที่ดีและสามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพค่ะ